วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บาคาร่า โกงหรือไม่

    พอพูดถึง บาคาร่า หลายคนที่เคยเล่นและกำลังเล่นอยู่ อาจจะสงสัย ว่าทำไมเล่นแล้วไม่เคยได้ หรือ เล่นได้แล้ว เงินก็อยู่กับเราไม่นาน วันนี้ ผมจะมาเล่าประสบการณ์จริงจากตัวผมให้ทุกๆท่านได้ฟัง เพื่อจะเป็นอุทาหรและเตือนสติเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยครับ

    ผมจะเล่าชีวิตผม ให้ทุกๆท่านไว้เตือนและบอกตัวเอง เผื่อที่ท่านทั้งหลายอาจจะใช้ชีวิตโดยไม่ประมาณมากขึ้น

    เริ่มต้น คือมีพี่ที่ทำงานคนนึงช่วยผมเล่น บาคาร่า เขาเล่าว่ามันเล่นง่ายได้เงินง่าย ผมก็ลองเล่น แรกๆก็ได้นะครับ เหมือนที่ทุกท่านได้กันทั่วๆไป ผมรู้สึกว่า เห้ย!! ทำไมมันได้เงินมาง่ายขนาด ในใจผมตอนนั้นคิดไปไกลถึงขั้นว่า ถ้าได้เงินวันละ 5 พัน ทุกวัน เดือนนึง ก็ 150,000 แล้ว ถ้าบวกเยอะขนาดนี้คงไม่ต้องทำงานกันแล้ว ผมเล่นไม่ถึงชั่วโมงผมได้มา 30,000+ ตอนนั้นความรู้สึกของผม มันเป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ แต่คุณเชื่อไหม ไม่ทันข้ามวัน เช้าผมเล่นได้ เย็นผมเสียคืนหมด ผมนึกในใจไม่เป็นไรว่ะ นั้นมันกำไรที่เราได้มา แต่ใครจะไปรู้ นั้นคือกลหลวงหรอกล่อให้เราติดกับครับ พอกำไรที่ผมได้มาหมด ผมก็รู้สึกอยากได้อีก ความโลภเกิด ผมจึงโอนเงินเข้าไปเล่นใหม่ ครั้งแรก 1,000 ผมเสียหมด ครั้งที่สอง 2,000 ผมก็เสียหมด ครั้งที่สาม 5,000 คุณเชื่อไหมครับ ผมเสียหมด มันเกิดอะไรขึ้น ผมถึงกับอึ้งกับตัวเอง แทงอะไรก็ไม่ถูก แทงแดงออกน้ำเงินแทงน้ำเงินออกแดง ลองแทงตรงข้ามตัวที่ชอบก็ผิด แทงทบเงินก็ผิด เอาง่ายๆ 10 ตา ถูก ไม่เกิด 2 ตา ผมโมโหมากผมโอนไปเรื่อยๆ จนเงินในบัญชีหมด พอเงินหมด ผมถึงกับเครียดครับ แล้วพูดกับตัวเองว่ากุเล่นไปได้อย่างไรว่ะ และที่สำคัญ ผมจำได้แม่นเลย ผมลง น้ำเงิน 5,000 น้ำเงินได้ 7 แต้ม แดง มัน 6 แต้ม ปกติจะอยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่คุณคิดดู 6 แต้ม มันสามารถเรียก 2 เข้ามา เป็น 8 แต้ม กินผม ผมคิดว่า ผมคงไม่ได้ซวยแล้วมั้ง และที่สำคัญ ผมลง ตาละ 5,000 ทั้งหมด 6 ตา ไม่เคยได้กินสักครั้ง ฝั่งที่ผมลงเงิน 5,000 จะได้ 0 - 2 แต้ม ไม่เคยเกินจากนี้ แต่ฝั้งตรงข้าม กินผมมากกว่าแค่ 1 แต้ม คุณคิดว่ามันโกงไหม หรือมันเป็นเรื่องบังเอิญ
    แต่สำหรับผมนะครับ ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่ามันโกงแน่ ๆ และ สามารถโกงได้ ล้าน% คุณเชื่อผมเถอะครับ อย่าปลอบใจตัวเองเลยว่า บางทีก็ได้ ถ้าคุณคิดแบบนี้นะแสดงว่าคุณกำลังตกเป็นเหยื่อมันเข้าแล้ว มันจะให้คุณรู้สึกได้ใจ แล้วพอคุณรู้สึกว่าตัวเองดวงดี คุณก็จะค่อยๆเพิ่มเงินที่เดิมพันมากขึ้น จนกระทั้ง หลงกลมัน สุดท้ายมันก็คงกรอบโกยเงินคุณจนหมด ผมลองมาหมดแล้วครับ ผมเคยเปลี่ยนแนวคิด เล่นมากแล้วเสียก็แทงทีละน้อย ๆ +วันละ500 ก็พอ พอได้กำไร 500 ปุ๊บผมเลิกเล่นทันที ผมทำแบบนี้ได้ ประมาณ 4 วัน ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ ผมลองแทงโดนเลือกฝั่งเดียว คือฝั่งน้ำเงิน ตาแรก 100-200-400-800-1,600-3,200-5,000 แม่งออกแต่แดงเกือบ 20 ตา พอผมเปลี่ยนไปแทงตาม มันกลับออกอีกฝั่ง ผมแค้นมาก คุณคิดว่ามันโกงอีกไหมครับ มันจะออกอะไรฝั่งเดี่ยวเกือบ 20 ตา บางคนก็บอกทำไมคุณไม่แทงตามมันไปล่ะ ผมลองแล้วครับอันไหนที่กำลังจะยาวพอผมตามก็ก็เปลี่ยน
    สุดท้ายผมต้องยอม เพราะมันโกงแบบสุดตีนเลย ผมเลยมานั่งคุยกับคนที่เคยเล่นมา เชื่อไหมครับ ไม่มีใครได้เลยสักคน คนแรกบอกว่า เสียรถไปคันนึงก็เพราะไอ้นี่แหละ คนที่สองบอกว่า เสียไป 350,000 คนที่สาม เป็นหนี้บัตรเคตรดิตทุกวันนี้โดนตามทวงถามถึงที่ทำงาน ไม่มีเงินจ่าย พี่อีกคน เสียนาหลายไร่ รวมแล้ว ล้านกว่าบาท

    ผมโชคดี ผมมาเจอพี่คนนึง เขาบอกเคยทำงานอยู่ในบ่อน น้อยคนนักที่จะได้ทำงานในนั้น(คนไทย) เพราะทำแล้วอยากที่จะออกมา เพราะบ่อนพวกนี้มันมีสัญญาจ้างนานครับ อันนี้ผมไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่า เขาเล่าว่า ทุก ๆ ก้าวที่เราเข้ามา จะมีกล้องมองเห็นเราหมด เรามากี่คนมากับใครรู้จักใครบ้าง เงินหนักแค่ไหน มันจะมีห้องควบคุมที่สามารถเห็นคุณแม้กระทั่งคุณกระดิกเท้า พูดถึงบาคาร่าบ้าง เขาบอกว่า โกงแน่ แต่โกงโดนที่เหยื่อ ไม่ทันรู้ตัว คือ ทำให้เหยื่อตายใจ 

1.โกงโดยคนแจกไพ่ พนักงานที่แจกไพ่ทุกคน ย้ำนะครับว่าทุกคน ถูกฝึกมาอย่างดี และ ชำนาญอย่างมาก บางที่เห็นหน้าตาดูชื่อ ๆ ดูสวย ๆ คิดว่าไม่มีอะไร แต่พวกนี้ตัวดีเชียวแหละ ทุกอย่างละเอียดมาก กว่าที่จะให้มาแจกไพ่เหมือนที่เราเห็นๆกัน พนักงานพวกนี้สามารถ เปลี่ยน สถานะการณ์ หรือเรียกง่ายๆว่า สามารถเลือกว่าจะเอาไพ่ใบไหนออกมา หรือให้ฝั่งไหนชนะ ขึ้นอยู่กับคนแจกไพ่ด้วย

2.โกงโดยกล่องใส่ไพ่หรือคนที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากใบตัวด้านหน้ากล่อง จะมีลักษณะ ทึบ สีดำบ้าง สีขาวบ้าง สีแดงบ้าง แล้วแต่ บ่อนนั้นๆ เขาเล่าว่า ไอ้ตัวนี้แหละ คือตัวเปลี่ยนไพ่ หรือ ตัวดีดไพ่ ที่ทำให้หลายคนหมดเนื้อหมดตัวมาแล้วนับไม่ถ้วน

3.โกงโดยการล็อคกินเป็นฝั่ง คือฝั่งไหนแทงเยอะ จะโดนกิน ฝั่งไหนแทงน้อยจะให้กิน เขาบอกว่า ทุกโต๊ะ จะมีพนักงานที่อยู่เบื้องหลัง เห็นยอดแทงทุกครั้ง ว่าฝั่งไหน แทงจำนวนเท่าไร ยกตัวอย่างเช่น แทงน้ำเงินยอดรวมอยู่ที่ 100,000 บาท แดงยอดรวามอยู่ที่ 50,000 บาท มันก็จะปล่อยให้กินฝั่งแดง ซึ่งมีจำนวนที่น้อยกว่า เพื่อไม่ให้บ่อยขาดทุน บางบ่อนอาจจะไม่ใช้วิธีนี้ แต่จะให้พนักงานเป็นผู้เล่นเอง แล้วไปวางเงินเดิมพันฝั่งที่ถูก ให้เกือบเต็มวงเงินของฝั่งนั้น พอคนที่เป็นนักพนันจะแทงฝั่งนั้นแทงไม่ได้เพราะวงเงินเต็มจำนวนที่อั้นไว้ ก็จะเปลี่ยนไปแทงอีกฝั่ง บ่อนจึงมีแต่ได้กับได้ กำไรเห็นๆ เห็นไหมครับ ว่ามีตรงไหนที่บ่อนจะเสียเปรียบคุณบ้าง เขาเล่าไปหัวเราะไป เขาบอกว่าผมก็สงสารนะครับเวลาเห็นคนหมดตัว

4.โกงโดยเปลี่ยนหน้าไพ่(นิยมใช้สำหรับออนไลน์) ระหว่างนำไพ่มาเปิด ขั้นตอนนี้ละเอียดมากๆครับ ใช้เครื่องสแกนหน้าไพ่ลงทุนสูงมากเป็นเทคโนฯขั้นสูงเลยก็ว่าได้ คุณไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาถามผมว่า คุณไม่สงสัยบ้างเหรอ ว่าทำไม คนแจกไพ่ถึงไม่นำไพ่มาวางเรียงกันไว้ก่อนที่นักพนันจะแทง คุณแปลกใจบ้างไหม ไม่มีใครสงสัยกันเลยใช่ไหม เขาหัวเราะ พร้อมบอกกับผมว่า ตรงนี้แหละคือจุดที่ทุกคนมองข้าม ผมถึงกับอึ้งแล้วก็ร้องว่าเออว่ะจริงด้วย ทุกอย่างมันละเอียดมาก ไม่งั้นบ่อนคงเจ๊งไปเยอะ เขาเล่าว่าอันนี้คือเทคโนฯที่จับยากที่สุด คนควบคุมเท่านั้นที่จะเป็นคนเปลี่ยนหน้าไพ่ ไม่ใช่คนแจกไพ่

    เขาถามผมว่า รู้ขนาดนี้แล้วยังจะอยากเล่นอยู่ไหม  ผมก็หัวเราะแล้วบอกว่า ผมนี่โง่มากเลย เขาบอกว่าคนเราไม่รู้ไม่ผิด แต่ถ้ารู้แล้วยังเข้าไปเล่น และคิดว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นผมมโนขึ้นเอง ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ขึ้นอยู่กับตัวคุณคนเดียว อย่าปลอบใจตัวเองว่ามันไม่โกง ไม่มีหรอกครับ บ่อนที่ไหนไม่โกง ถ้าไม่โกง บ่อนจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย ค่าทัว ที่มาลง ค่าน้ำ ค่าไพ่ ค่าพนักงานแจกไพ่ ค่าอื่นๆอีกมากมาย คุรก็ลองคิดดูเอาเองนะครับ

ตอนนี้ผมเลิกเล่นแล้วนะครับ ผมรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเยอะ สบายใจขึ้นเยอะ ไม่เครียด ไม่กังวล แล้วอีกอย่างถึงเงินที่ผมเสียไป เกือบแสน ก็ถือว่าซื้อบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ และครั้งสุดท้ายให้กับการพนันเหี้ยๆนี้ให้มันจมลงไปใต้ตีนผมและไม่หวนกลับมาอีก ผมขอสัญญาว่าผมจะไม่เตะมันอีก ผมอยากให้เพื่อนๆทุกคนคิดได้นะครับ ขอบคุณที่รับฟังครับ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต

การสื่อสารข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ หมายถึง การโอนถ่ายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทาง กับคอมพิวเตอร์ปลายทาง โดยในการโอนถ่ายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการอาศัยภาษากลางในการสื่อความหมายระหว่างกันเพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้การสื่อสารระหว่างกันภายในเครือข่ายได้อย่างรวมแล้วและมีประสิทธิภาพ โดยทั่วๆ ไปแล้วเรียกว่า Protocol เป็นเช่นนี้จะเห็นได้ว่า Protocol นั้นหมายถึง มาตรฐานทางด้านภาษาสื่อสารในการที่จะควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทาง สำหรับการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตนั้นได้ใช้ Protocol ที่มีชื่อว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เป็นโปรโตคอลมาตรฐานในการสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อันเกิดจากมาตรฐาน 2 แบบ คือ TCP มีหน้าที่ในการแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนย่อยๆ ซึ่งเรียกว่า Packet ที่มีขนาดเล็กกว่า 1,500 ตัวอักษร และทำหน้าที่ประกอบข้อมูลที่แบ่งย่อยออกมาเหล่านี้ในฝั่งของปลายทางที่รับข้อมูล ส่วน IPนั้นทำหน้าที่ในการกำหนดเส้นทางของการสื่อสารจากต้นทางไปยังปลายทาง

ความหมายและลักษณะของ URL

ความหมายและลักษณะของ URL

URL เป็นตัว Link เพื่อเชื่อมโยง Web Page เข้าด้วยกันนั้นจะต้องใช้ URL (Uniform Resource Locator) เป็นเลขทะเบียนอ้างอิงตำแหน่ง (Address) โดยในแต่ละ Web Page จะต้องมี URL เพื่อใช้อ้างอิงตำแหน่งที่เป็นของตนเองซึ่งตำแหน่งของ URL Address นั้นจะไม่เหมือนกัน

ตัวอย่างและความหมายของ URL 

http://www.chaiyo.com/path/index.html

“http” : เป็นส่วนที่ใช้ระบุประเภท Protocol ซึ่งในที่นี้กำหนด Protocol คือ HTTP และนอกจาก protocol http สำหรับ www แล้วยังมี ftp,gophers,wais,telnet,news เป็นต้น

www.chaiyo.com : ส่วนนี้เป็นตัวเลข 4 ชุดที่ใช้ระบุตำแหน่งของ Internet Sever และเรียกชุดของตัวเลขนี้ว่า IP Address เช่น 163.12.135.7 แต่ทั้งนี้ในการเขียน URL ปกติจะไม่เขียนเลขชุดเหล่านี้เนื่องจากจำยากจึงมีการนำเอาข้อความมาแทน เช่น www.Chaiyo.com แต่ในการ

ประวัติความเป็นมาของ Domain Name

ความเป็นมาของโดเมนเนม ( Domain name)

อินเทอร์เน็ต (Internat ) เริ่มต้นมาจากโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการศึกษาและระบบเครือข่ายที่รู้จักกันดีในนามของโครงการ “ARPANET” ซึ่งระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานตรงนี้ก็คือ TCP/IP (Transmission Control Protocal/Internet Protocol) โดยใช้ระบบปฏิบัติการ IUNIX ซึ่งช่วยให้การเชื่อมโยงสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก

ในระยะแรก การใช้งานในอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไรนัก เพราะเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายมีไม่มาก แต่ต่อมาเมื่อมีคนสนใจและมีเครือข่ายการใช้งานที่กว้างมากขึ้น ก็เลยทำให้เกิดความต้องการในการใช้ชื่อที่ง่ายและไม่ซับซ้อน จำง่าย แทนที่จะใช้ในลักษณะของ IP Address ซึ่งเป็นชุดตัวเลขที่ใช้อยู่ซึ่งทำให้เกิดการศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องของ “Name Server” ขึ้นมาครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องรู้จัก และนี่ก็คือต้นกำเนิดของการใช้โดเมนเนมในปัจจุบันและหลังจากนั้นไม่นาน Domain Name System (DNS) ชุดแรกที่ถูกนำออกมาให้ทุกคนได้ใช้งานมีอยู่ด้วยกัน 5 แบบ โดยเราสามารถแยกความแตกต่างของโดเมนเนมได้จากตัวอักษรที่ต่อจากชื่อ เช่น www. « « « .com หรือ www. « « « .net หรือ www. « « « .org ระยะแรกนี้การจดโดเมนเนมจะทำได้โดยไม่ต้องเสียเงิน โดยมี IANA เป็นผู้ดูแล แต่ระยะหลังเมื่อทาง IANA และ NSF (National Science Foundation) ได้ร่วมกันจัดตั้ง InterNIC ขึ้นมา เริ่มมีการคิดค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนตามมา 100 USD ใน 2 ปีแรกของระยะแรกและลดลงมาเป็น 70 USD โดยมี ICANN หรือ Internet Corporation for Assigned Names and Numbers ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมา จากความร่วมมือของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหลายในการเป็นผู้คอยดูแลและจัดการเรื่องเกี่ยวกับโดเมนเนม การจัดการเรื่องของ IP Address การดูแลโปรโตรคอลและรวมไปถึงการจัดการเกี่ยวกับ Server System ด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น ยุคแรกๆ ของโดเมนเนมน้นมีการกำหนดสกุลไม่มากนัก ต่อมาปัจจุบัน หลังจาที่มีการยึดครองโดเมนเนมหลักๆ ไปเป็นของ Internic.net อย่างเดียวแล้ว ก็เกิดการฟ้องร้องกันระหว่างรัฐกับบริษัท Netword Solution จำกัด ว่าใครจะได้เป็นเจ้าของโดเมนเนม ซึ่งผลได้ประกาศออกมากลางเดือนมีนาคม 2542 ว่า “ ให้บริษัทใดก็ได้สามารถบริหารชื่อเป็นของตัวเองได้”

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต (TCP/IP )

การสื่อสารข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ หมายถึง การโอนถ่ายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทาง กับคอมพิวเตอร์ปลายทาง โดยในการโอนถ่ายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการอาศัยภาษากลางในการสื่อความหมายระหว่างกันเพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้การสื่อสารระหว่างกันภายในเครือข่ายได้อย่างรวมแล้วและมีประสิทธิภาพ โดยทั่วๆ ไปแล้วเรียกว่า Protocol เป็นเช่นนี้จะเห็นได้ว่า Protocol นั้นหมายถึง มาตรฐานทางด้านภาษาสื่อสารในการที่จะควบคุมการรับส่งข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทาง สำหรับการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตนั้นได้ใช้ Protocol ที่มีชื่อว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เป็นโปรโตคอลมาตรฐานในการสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อันเกิดจากมาตรฐาน 2 แบบ คือ TCP มีหน้าที่ในการแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนย่อยๆ ซึ่งเรียกว่า Packet ที่มีขนาดเล็กกว่า 1,500 ตัวอักษร และทำหน้าที่ประกอบข้อมูลที่แบ่งย่อยออกมาเหล่านี้ในฝั่งของปลายทางที่รับข้อมูล ส่วน IPนั้นทำหน้าที่ในการกำหนดเส้นทางของการสื่อสารจากต้นทางไปยังปลายทาง

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของblog ในการจัดการองค์กร

ใช้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้
เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้
ใช้เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้
การเขียน blog สำหรับบันทึกเล่าเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ในสิ่งที่ผู้เล่าสนใจ เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในสมองลงสู่ตัวหนังสือ การเขียนต้อง มีอิสระทางความคิดในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเอง จะช่วยอำนวยให้การดึงเอาความรู้ฝังลึกถูกแสดงออกมาได้โดยไม่ยากนัก
ความเป็นผู้รู้ของตนเอง หรือผู้เล่าบางท่านอาจตระหนักรู้อยู่ว่าตนเองมีความรู้นี้อยู่ แต่ความรู้ไม่เคยได้ถูกเรียบเรียงหาเหตุผลสนับสนุนต่อยอดความถูกต้องของความรู้นี้ ได้โยงความสัมพันธ์ของเรื่องเล่าของตนเองและสร้างความน่าเชื่อถือและ ความถูกต้องของความรู้ฝังลึกให้เกิดขึ้นได้
การเขียน blog อยู่เป็นประจำก็สามารถนำมาสู่การสร้างขุมความรู้ (Knowledge Assets) อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ การเก็บรวบรวมและการแก้ไขหรือเพิ่มเติมความรู้ก็ทำได้โดย สะดวกรวดเร็ว ส่วนระบบ blog ที่เป็นแบบชุมชน เช่น GotoKnow.org จะยิ่งช่วยทำให้ขุมความรู้ถูกร่วมมือกันสร้างขึ้นได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นขุมความรู้ที่เชื่อมโยง (ผู้เขียนมีปัญหากับการใช้งานในเว็บ gotoknow.org จึงไม่ได้ใช้บริการ KM blog ที่นี่ ซึ่งน่าจะเป็นแหล่ง KM blog ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย)
การเขียน blog จะอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นต่อความรู้ที่ผู้เขียนถ่ายทอดลงไปใน blog และผู้เขียนได้เขียนโต้ตอบต่อความคิดเห็นนั้นๆ ไปๆ มาๆ ในลักษณะของการสนทนาเพื่อหาความแตกฉานในตัวความรู้ ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันสกัดความรู้ฝังลึกได้อย่างดี

วิธีในการเขียนบล็อคให้น่าสนใจและดึงดูดใน 10 วิธี

1.เขียนโพสต์ที่มีเนื้อหาต่อเนื่องจากโพสต์ที่ได้รับความ นิยม
เช่น ถ้าเราเขียนโพสต์เกี่ยวกับ 10 วิธี การเป็นนักวาดที่ดี แล้วโพสต์นั้นขึ้นหน้าฮ็อตโพสต์
เราอาจจะเขียนไอเดียที่ต่อเนื่องจากโพสต์นั้น เช่น 10 วิธี หาไอเดียในการวาด
บางคนไม่รู้ว่า เขียนยังไง บล็อคถึงจะได้ขึ้นหน้าฮ็อต
บางคนก็ไม่ได้สนใจว่าบล็อคจะขึ้นหน้าฮ็อตหรือเปล่า
แต่อยากจะบอกว่า การได้ขึ้นหน้าแรกนั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก ต่อตัวคุณและผู้อ่าน
เพราะว่า มันแสดงให้เห็นว่า โพสต์ของคุณ มีคุณภาพ และ น่าสนใจจริงๆ
และมันอาจจะเป็นบันไดก้าวแรกในการที่จะเป็นนักเขียนก็ได้
ที่จริง เคยเขียนบล็อคไปแล้วว่า ทำยังไง เอนทรี่ถึงจะได้ขึ้นหน้าแรก
วิธีง่ายๆ คือ เขียนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นตัวคุณ เป็นสิ่งที่คุณสนใจ และมีประโยชน์
คุณไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง เพียงแต่คุณต้องรู้ niche ของตัวเอง
คือมีเนื้อหาที่คุณสนใจ และสามารถเขียนได้ดี โดยมีไอเดียในการเขียนได้เรื่อยๆ
2.เขียนในสิ่งที่เป็นเคล็ดลับ
อะไรก็ได้ที่เป็นเคล็ดลับ ผู้อ่านจะชอบเป็นพิเศษ และให้ความสนใจ
เ่ช่น วิธีการปรุงเห็ดย่างให้อร่อยเป็นพิเศษ,วิธีการวาดตา,วิธีลงสีผม,วิธีแต่ง หน้า,วิธีการดูแลรักษาผิว
ก็คือ เขียนในเรื่องที่คุณถนัดเป็นพิเศษจนมีเคล็ดลับส่วนตัว
3.สัมภาษณ์คนที่น่าสนใจ และ อยู่ในวงการเดียวกัน ลงบล็อคเคยเป็นคนที่ถูกสัมภาษณ์ เลยรู้ว่าวิธีนี้ก็ได้ผล เพราะว่า การสัมภาษณ์นั้น
ถ้าเป็นคำถามที่น่าสนใจ จะสามารถดึงดูดผู้อ่านให้อ่านได้ดี
4.บ่น(rant)
อันนี้ต้องระวัง เพราะไม่ใช่ทุกคนทีจะเขียนบล็อคบ่นแล้วดี
บางคนอาจจะมองว่า เอ๊ะ บ่นยังไงคนจะรำคาญไหม
บางที หัวข้อในการบ่นนั้น สามารถดึงดูดผู้อ่านและน่าสนใจได้เหมือนกัน
ถ้าเราเลือกให้ดียกตัวอย่างที่เราเคยอ่้านมา
คนต่างประเทศ เป็นอาร์ติสท์ที่มีชื่อในระดับหนึ่ง
เขาบ่นลงบล็อคว่า "ฉันต้องการที่จะเป็นคนธรรมดา ที่มีชีวิตจิตใจ และสามารถบ่นได้ ไม่พอใจ และมีอารมณ์มากกว่าคนที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ" บางที หัวข้อในการบ่น ก็ทำให้เราได้คิดว่า
ก็จริงนะ เพราะว่าคนที่มีอารมณ์และเขียนบ่นลงบล็อค
ดูจะเป็นคนธรรมดาและเข้าถึงได้มากกว่า
ดูน่าสนใจ น่าติดตามมากกว่า่ และต้องระวังไม่ใช่คิดว่าจะเขียนบ่นเพื่อดึงดูดคนอ่านอย่างเดียว
เพราะบางทีผลเสียอาจจะตามมาก็ได้ ถ้าจะบ่นให้น่าสนใจ ควรจะมีประเด็นในการเขียน
มากกว่าจะบ่นไปเรื่อยๆ
5.link bait
เขียนหัวข้อที่น่าสนใจต่อการลิงค์ หรือ retweet
ส่วนมากก็คือ เขียนในสิ่งที่ unique คือ ไม่เหมือนใคร ยังไม่เคยมีใครเขียนในภาษาของเรา
หรือเขียนในสิ่งที่ทำให้คนขำหรือช็อคเวลาได้อ่่าน
6.มีภาพประกอบที่เตะตา
วิธีนี้ เราอาจจะวาดภาพประกอบขึ้นมาเอง หรือทำเป็นการ์ตูนก็ได้
โพสต์ของเราจะดึงดูดผู้อ่านได้มากขึ้น
7.เขียนเป็นลิสต์
ก็คือ วิธีที่เราทำในเอนทรี่นี้นั่นเอง พวก 10 วิธีในการ....8วิธีในการ ....
ส่วนใหญ่แล้ว มันจะน่าสนใจมากขึ้น
และส่วนใหญ่ คนชอบอ่านหัวข้อที่เป็นลิสต์ค่ะ ไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างประเทศก็เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น หัวข้อที่เขียนด้วยวิธีนี้จึงเป็นที่นิยม

8.เขียนเกี่ยวกับความคิดเห็นที่คุณมีแตก ต่างจากคนหมู่มาก
สิ่งที่ทำให้อะไรก็ตามน่าสนใจขึ้นมา ก็เป็นเพราะว่ามันแตกต่างจากสิ่งอื่นๆอย่างชัดเจน
การที่คุณมีความคิดเห็นแตกต่างจากคนอื่นนั้น จะทำให้เกิดการถกเถียงขึ้น
9.เขียนข้อเท็จจริงที่ได้รับการเรียบเรียง
หลายครั้งที่ข้อเท็จจริงต่างๆเหล่านี้ กระจัดกระจายอยู่หลายๆเว็บไซต์
เช่นบทความในการ รีวิวสินค้าชนิดใดหนิดหนึ่ง คุณอาจจะเขียนรวบรวมขึ้นมา
แล้วทำเป็นโพสของคุณ โดยใส่ความคิดเห็นของคุณเข้าไปด้วย
10.เขียนโพสต์เกี่ยวกับไอเดียในการ เขียนบล็อคใหม่ๆ